ช่วงเข้าหน้าร้อนเป็นฤดูกาลของทะเลอันดามัน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความใสของน้ำทะล มีจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงสวยงามมากมายหลายจุด ประกอบกับสถานการณ์โควิค-19 ที่ดีขึ้น ไม่รุนแรงเท่าเมื่อก่อน ผู้คนได้เริ่มออกมาใช้ชีวิต หากิจกรรมนอกบ้านทำ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มเปิดให้สามารถไปได้ เพื่อนๆ คงเริ่มเตรียมตัวหาวันหยุด หาทริปดำน้ำมาพักผ่อนร่างกาย พักผ่อนจิตใจ หากใครเป็นสายดำน้ำคงจะเห็นว่ามีทริปดำน้ำภูเก็ต ทริปดำน้ำที่ต่างๆ และทริป Liveaboard เยอะแยะมากมายให้เลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลายคนที่ไม่เคยไปคงสงสัยว่าทริปดำน้ำ Liveaboard มันดีอย่างไร ? ทำไมนักดำน้ำถึงชอบไปกัน ?
ทริปดำน้ำ Liveaboard คืออะไร ?
Liveaboard ก็คือทริปดำน้ำที่ออกไปใช้ชีวิตนอนค้างคืนบนเรือยอร์ชกลางทะเลเป็นระยะเวลาหนึ่ง มีตั้งแต่ขั้นต่ำ 2 วัน 1 คืน ไปจนถึง 7 วัน 8 คืน หรือ 10 วัน เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับทริปและสถานที่ๆ ไปดำน้ำ แตกต่างกับ Daytrip ที่ไปเพียงหนึ่งวัน เช้า-เย็น กลับ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่บนเรือนั้นก็จะมีกิจกรรมดำน้ำทุกวันตามตารางที่ได้วางแผนไว้ โดยบนเรือก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการดำรงชีวิตประจำวันไว้ครบครัน ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนสันทนาการ ฯลฯ
Liveaboard มีโปรแกรมอะไรบ้าง ?
เรือแต่ละลำมีเจ้าหน้าที่ผู้สอนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่มีโปรแกรมใดบ้างขึ้นอยู่กับกำหนดการเดินทางและสถานที่ดำน้ำ ข้อเสนอทั่วไปรวมถึงหลักสูตรขั้นสูง Nitrox และหลักสูตรพิเศษอื่นๆ เช่น ความลึก, การนำทาง, การลอยตัว และการระบุปลา ถามผู้ให้บริการที่คุณสนใจว่ามีอะไรบ้างก่อนที่คุณจะจองการเดินทาง
ข้อดีของการออกทริปดำน้ำ Liveaboard
1. ได้อยู่กับทะเลทั้งวันทั้งคืน
ไม่ว่าจะตื่นนอนหรือก่อนเข้านอนหันไปทางไหนก็เห็นวิวทะเล ใครที่ชอบอยู่กับทะเลคงจะถูกใจทริปดำน้ำ Liveaboard มากแน่นอน
2. ได้ดำน้ำแบบจุใจ
ใครที่ไปทริปดำน้ำแบบ One day trip แล้วรู้สึกว่ายังไม่พอ เพราะส่วนมากจะได้ดำเพียง 2-3 ไดฟ์/วัน แนะนำให้มาทริป Liveaboard จะได้ดำน้ำหลายวันแบบจุใจกันเลย ภายใน 1 วันสามารถดำน้ำได้ถึง 4 ไดฟ์ รวมดำน้ำแบบ Nightdive ได้ดำน้ำตั้งแต่ตื่นนอน ไปจนถึงก่อนเข้านอนเลยทีเดียว
3. มีเส้นทางหลากหลาย
ไปทริปดำน้ำ Liveaboard เรือจะแล่นไปเรื่อยๆ หลายวัน เราจึงไม่ต้องรีบร้อนกับการเดินทางไปยังจุดดำน้ำต่างๆ ดังนั้นใน 1 ทริปเราจะได้ดำน้ำในหลาย Divesite ได้เห็นความสวยงามในแต่ละจุด บางจุดที่ทริปดำน้ำแบบ One day trip ไม่มี เช่น เกาะโลซิน จ. ปัตตานี ก็สามารถไปดำน้ำได้โดยการไปกับทริปดำน้ำ Liveaboard
4. ราคารวมทุกอย่าง
เราไม่ต้องเสียเวลาหาที่พัก ทริปดำน้ำ หาร้านอาหาร ฯลฯ ในการมาเที่ยวเพราะในราคาที่เราจ่ายไปในทริป จะเป็นราคาที่รวมทั้งห้องพัก อาหาร ค่าดำน้ำ เครื่องดื่ม และอื่นๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละทริป
5. อาหารอร่อย
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดำน้ำมาเหนื่อยๆ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้กินของอร่อยๆ ทริปดำน้ำ Liveaboard จะมีอาหารและเครื่องดื่มอย่างดีไว้บริการตลอดเวลา ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ของว่าง ทำให้หมดปัญหาที่จะต้องคิดว่า วันนี้กินอะไร ร้านไหนดี
6. ได้พักผ่อน
การมาอยู่ท่ามกลางทะเล สายลม และแสงแดด นับว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีมาก และในบางที่หรือบางจุดที่เรือแล่นไป อาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้เราได้ทิ้งความวุ่นวาย และมาสัมผัส อยู่กับธรรมชาติรอบๆ ตัวได้มากขึ้น
7. ได้มิตรภาพใหม่
การได้มาอยู่บนเรือลำเดียวกันกับคนที่มีความชอบอะไรเหมือนๆกัน ก็ทำให้เกิดมิตรภาพที่ดีขึ้นมาได้ บางทีเราอาจจะได้รู้จัก ได้เป็นเพื่อนใหม่จากการพูดคุย หรือได้ดำน้ำในกลุ่มเดียวกัน เป็นบัดดี้ดำน้ำ หรือตอนทานข้าว สังสรรค์ร่วมกัน
อะไรไม่รวมอยู่ในแพ็คเกจ Liveaboard ?
สิ่งนี้จะแตกต่างกันไป แต่ไม่รวมอยู่ในแพ็คเกจทั่วไป ได้แก่ เที่ยวบิน, ค่าเช่าอุปกรณ์, ค่าเรียน, Nitrox เงินบำเหน็จลูกเรือ (10-20% ของราคาแพ็คเกจ) ประกันดำน้ำและการเดินทาง และภาษีท้องถิ่น เช่น ค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าธรรมเนียมท่าเรือ สิ่งของส่วนใหญ่ที่ไม่รวมอยู่ในการเข้าพักรีสอร์ททั่วไป
ปัจจัยในการพิจารณาเลือกออกทริปดำน้ำ Liveaboard
ระดับทักษะการดำน้ำของตัวเอง
การออกทริปดำน้ำ Liveaboard เป็นการไปดำน้ำที่หลากหลาย Divesite โดยแต่ละจุดดำน้ำก็จะมีความลึกที่แตกต่างกันไป บางแห่งจุดที่สวยใต้น้ำอาจอยู่ที่ 15 เมตร หรือบางจุดอาจจะอยู่ที่ลึก 20 เมตร+ เป็นต้น หากเราเรียนแค่ Open Water ซึ่งลงไปได้ไม่เกิน 18 เมตร เราก็จะไม่สามารถลงไปชมความงดงาม ชมจุดไฮไลต์ของบาง Divesite ที่อยู่ลึกเกิน 18 เมตร ดังนั้นมาทริป Liveaboard ควรเรียนจบระดับ Advance มาจะรู้สึกคุ้มกว่า หรือถ้าจบ Open Water เราก็สามารถมาต่อคอร์สเรียน Advance บนเรือ Liveaboard ได้ เราก็จะได้ทั้งเรียน ได้ FunDive และสามารถลงไปในความลึกในขั้นของ Advance ได้ อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นนักดำน้ำมือใหม่อาจจะให้นักดำน้ำที่มีประสบการณ์มากหรือมืออาชีพช่วยประเมินระดับทักษะของคุณว่าเป็นอย่างไร ต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมก่อน หรือระหว่างเดินทางหรือไม่ เนื่องจาก Divesite แต่ละที่ก็ต้องใช้ระดับทักษะแตกต่างกัน ดังนั้นคุณควรบันทึกการดำน้ำของคุณไว้ทุกครั้งเพื่อนำมาประกอบการประเมินตนเองด้วย
ความคาดหวังในการออกทริป
การไปทริป Liveaboard เป็นการที่เราไปอยู่ กิน นอน และดำน้ำบนเรือ เราอาจจะเกิดการคาดหวังในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับเรือ เช่น ห้องนอน ความสะอาด ความสะดวกสบายบนเรือ อาหารบนเรือ service ความคุ้มค่า ฯลฯ และอีกด้านคือในเรื่องของการดำน้ำ แต่ในแต่ละ Divesite ก็จะมีสัตว์ประจำถิ่น ที่จะอยู่ในจุดนั้นเป็นประจำ ซึ่ง Divelead จะบรีฟให้ฟังให้ทราบก่อนที่จะลงไปดำน้ำ และเชื่อว่าหลายๆคนที่ไปทริป Liveaboard ได้ไปดำน้ำหลายๆ วัน หลายๆ ไดฟ์ ก็อยากจะเจอสัตว์ใหญ่ๆ หรือสัตว์อะไรที่ไม่เคยเจอ แต่อยากให้ทุกคนคิดว่า ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าเขาจะอยู่ตรงไหน ออกหากินตรงไหน เขาอาจเปลี่ยนที่ ถิ่นฐาน ตามสภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เจอสัตว์ใหญ่หรืออะไรที่เราคาดหวังอยากเจอ ในใต้มหาสมุทรก็ยังคงมีสิ่งสวยงามอีกหลายๆมุมมองและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติให้เราพบเจอตลอดไดฟ์
งบประมาณในการออกทริป
ทริปดำน้ำ Liveaboard มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะในค่าใช้จ่ายจะรวมแทบทุกสิ่งทุกอย่างตลอดหลายวัน ทั้งอาหาร ห้องพัก ค่าดำน้ำ ค่าประกัน ฯลฯ และยังไม่รวมค่าเดินของเราทางในการไปเรือ (ไม่ว่าจะค่าน้ำมันหรือค่าเครื่องบิน) ทริป Liveaboard เราควรมีเงินเตรียมไว้สัก 20,000 บาทเป็นอย่างต่ำ งบประมาณในการออกทริปจะแตกต่างกันไปจาก
- จำนวนวัน
- จำนวน Dive
- รูปแบบของห้องพัก
- เรือ
- จุดดำน้ำ
- ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม
ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆ เช่น ในราคานี้รวมอะไร หรือไม่รวมอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องดูหมายเหตุหรือเงื่อนไขให้ดีๆ เพราะบางทีอาจจะรวมหรือไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ,ค่าเข้าอุทยาน เป็นต้น ปกติค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดบนเรือ Liveaboard เป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า โดยรวมค่าอาหารและดำน้ำแล้ว
พิกัดดำน้ำที่สนใจ
ทริปดำน้ำ Liveaboard จะมีหลายเส้นทางให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น อันดามันเหนือ อันดามันใต้ อ่าวไทย ฯลฯ แต่ในละเส้นทางก็จะมีจุดดำน้ำย่อยๆ ออกไป ทั้งนี้จุดดำน้ำอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศในตอนนั้น แต่ละเส้นทาง แต่ละจุดดำน้ำก็จะมีความสวยงาม และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป บางที่อาจเป็นแนวปะการัง บางที่อาจเป็นกองหิน อาจเป็นถ้ำ ฯลฯ เราอาจจะหาข้อมูลคร่าวๆ ก่อนไป ว่าแต่ละพื้นที่มีอะไรที่น่าสนใจ อยากไปดูสิ่งแวดล้อมแบบไหนแล้วเลือกไปในเส้นทางนั้น โดยอาจตามดูจากรีวิวของจุดหมายปลายทางและดูเรือ Liveaboard ที่แล่นผ่านสถานที่ที่คุณสนใจมากที่สุด
Dive center ที่จัดทริป
Dive center หรือโรงเรียนสอนดำน้ำที่จัดทริปขึ้น ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการดูแลลูกค้า, ความชำนาญของ Dive lead ฯลฯ เราอาจจะพิจารณาเลือกจากประสบการณ์ส่วนตัว, เพื่อนบอกต่อ, อ่านรีวิวของคนที่เคยไปมาแล้วก็ได้ หรืออาจจะลองใช้บริการของที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยไป ก็อาจจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและเป็นโอกาสที่จะรู้จักผู้คนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการหาเรือ Liveaboard ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตนเองอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนไปออกทริปดำน้ำ
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
การไปดำน้ำหลายๆ วันติดต่อกัน เราควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะต้องใช้แรงกายบวกกับความแข็งแรง เพราะต้องเจอแดดเจอลม และควรดื่มน้ำให้เยอะๆ ก่อนที่จะลงไปดำน้ำ เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดภาวะขาดน้ำ
2. เตรียมชุดให้พร้อม
อย่าลืมนับจำนวนวัน จำนวนไดฟ์ และเตรียมชุดไปให้เพียงพอ เพราะการไปทริป Liveaboard เราต้องอยู่บนเรือเป็นระยะเวลาหลายวัน
3. เตรียมยาประจำตัว
หากใครมีโรคประจำตัว อย่าลืมพกยาไปด้วย แต่ถ้าเป็นยาสามัญทั่วไปบนเรือจะมีไว้ให้บริการ
4. ตรวจสอบอุปกรณ์
หากใครใช้อุปกรณ์ของตัวเอง อย่าลืมตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมก่อนมาดำน้ำ หรือหากเช่าอุปกรณ์ให้แจ้งไซส์อุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้กับทางบริษัทให้ถูกต้อง ก่อนออกทริป Liveaboard ควรมีคอมพิวเตอร์ดำน้ำและไฟฉายใต้น้ำไปด้วย
5. เตรียมครีมกันแดด
ทริป Liveaboard ในหนึ่งวันเราจะต้องลงดำน้ำหลายๆ รอบ อย่าลืมเตรียมครีมกันแดดไปให้พร้อม แนะนำให้ใช้แบบ Reef safe ที่ไม่มีสารทำลายปะการัง เพื่อไม่ส่งผลเสียต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อม
6. ตรวจสอบการเดินทาง
ตรวจสอบเที่ยวบิน เวลาขึ้นรถและเรือ เพราะบางที่อาจจะต้องใช้เวลาเดินทางไปยังท่าเรือ และอย่าลืมเช็คเวลาเที่ยวบินขากลับหลังจากจบทริปดำน้ำ ควรมีเวลาให้ร่างกายพักน้ำก่อนขึ้นเครื่องบิน
ฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำ Liveaboard คือเมื่อไหร่ ?
คำตอบสั้นๆ คือทุกเวลา! คำตอบยาว ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะดำน้ำที่ไหนและอยากเห็นอะไร จุดหมายปลายทางหลายแห่งมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลในแต่ละสภาพอากาศ, สัตว์ทะเล, ราคา และแผนการเดินทาง คุณควรกำหนดว่าอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้คุณสามารถเลือกแผนการเดินทางของทริป Liveaboard ได้อย่างเหมาะสม
ใครเป็นสายเที่ยวทะเล รักการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาทริปดำน้ำ Liveaboard ให้ได้สักครั้งในชีวิต ที่จะได้ใช้ชีวิตแบบ Dive Eat Sleep Repeat ทั้งได้ดำน้ำแบบ Nightdive ได้เก็บจุดดำน้ำในเส้นทางต่างๆ หลายๆ จุด เก็บประสบการณ์การดำน้ำ ฝึกการดำน้ำไปในตัว หากใครสนใจอยากลองไปทริปดำน้ำแบบ Liveaboard เก็บเงิน แพลนวัน หาเส้นทางที่อยากไป หรือสามารถทักมาสอบถามเส้นทาง รายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง Amity Diving Trip ได้เลย เรามีทั้งคอร์สเรียนดำน้ำและทริปดำน้ำให้เลือก รวมทั้ง Daytrip ไปกับเรา ไม่ว่าจะเป็นทริปดำน้ำภูเก็ตหรือจังหวัดอื่นๆ ที่ใกล้เคียง อย่าง กระบี่หรือพังงา สำหรับใครที่เคยผ่านคอร์สพื้นฐาน Open Water Diver มาแล้วสามารถเรียนต่อขั้น Advanced Adventurer บนเรือได้ทันที ถือว่าได้ทั้งเรียนทั้งเที่ยวไปพร้อมกันในครั้งเดียวเลยค่ะ
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ การไปทริปดำน้ำต่างๆ ทั้ง Daytrip และ Liveaboard ควรตรวจ ATK ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนขึ้นเรือ และอย่าลืมตรวจสอบมาตรการการเดินทางเข้าจังหวัดต่างๆ หากใครที่อยากมาทริปดำน้ำภูเก็ต ต้องปฏิบัติการตามมาตรการเดินทางเข้าจังหวัดดังนี้คือ
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว หรือ
- มีผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR / Antigen Test ว่าไม่พบเชื้อ ไม่เกิน 7 วันก่อนเดินทาง หรือ
- หากเคยติดเชื้อและรักษาหายแล้ว ไม่เกิน 90 วัน โดยต้องมีหนังสือรับรองการรักษา (เด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ ได้รับการยกเว้นมาตรการ)
หากเดินทางโดยเครื่องบินควรตรวจสอบมาตรการของแต่ละสายการบินและขากลับควรจองตั๋วเครื่องบินหลังจากดำน้ำไดฟ์สุดท้ายเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง