เคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนรอบข้างถึงไปดำน้ำกันเยอะจัง โลกใต้ทะเลมีอะไรน่าสนใจกันนะ ลงไปใต้ทะเลลึกๆ จะน่ากลัวหรือเปล่า การดำน้ำดูปะการังต้องมีงบประมาณเท่าไหร่สำหรับซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ส่วนตัว เนื่องจากหลายคนไม่ได้สนใจเพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูง เพียงค่าเรียนก็หลักหมื่นแล้ว จะเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการทำงานได้จริงหรือ ลองมาทำความรู้จักกัน แล้วจะพบว่าจริงและคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายแน่นอน
เราจะพามารู้จักการดำน้ำกัน
สำหรับมือใหม่ก็อาจยังสงสัยถึงการดำน้ำดูปะการังใต้ทะเลว่าต้องทำอย่างไร โดยปกติแล้วมักจะเป็นการดำน้ำแบบ Scuba กัน ซึ่งคือการดำน้ำลึกที่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ โดยพกถังอากาศลงไปใต้น้ำ ทำให้เราสามารถหายใจได้ตลอดเวลา เราจึงสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานกว่าการดำน้ำประเภทอื่น ปกติการดำน้ำประเภทนี้จะเป็นที่นิยมของผู้คน ที่หลายๆ คนไปทำกันในวันหยุด เพราะเป็นการดำน้ำเพียงแบบเดียวที่ทำให้เราสามารถชื่นชมความงามและได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับธรรมชาติใต้ทะเลได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าการดำน้ำ scuba จะดูมีอุปกรณ์เยอะกว่าการดำน้ำแบบอื่น แต่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เข้าใจวิธีการใช้งานอุปกรณ์และเทคนิค เราก็จะเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับโลกใต้ทะเลแบบที่หากอยู่บนผิวน้ำคงไม่มีวันได้พบเห็น ซึ่งเสน่ห์ของการดำน้ำแบบนี้คือช่วยเปิดมุมมองธรรมชาติใต้ทะเล ช่วยฝึกสมาธิ เกิดการฝึกฝนตนเอง เพราะต้องใช้ทักษะและสมาธิในขณะดำน้ำ ยิ่งมีสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งดำได้สนุกมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อการนำไปใช้ปรับให้เหมาะสมในชีวิตประจำวันด้านอื่นๆ ได้
ทำไมถึงต้องลองดำน้ำดูปะการัง โลกใต้ทะเลมีอะไรน่าสนใจ ?
จากข้อมูลของ National Geographic ระบุว่าโลกของเรามีส่วนประกอบของน้ำทะเลถึง 70% ในขณะที่มีพื้นดินเพียง 30% ของทั้งหมด กล่าวได้ว่าโลกใต้ทะเลจึงยังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมากมายที่น่าค้นหา ปัจจุบันมีจุดดำน้ำดูปะการังมากมายทั่วโลก อาทิ ทะเลแดง, เกร็ท แบริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) สำหรับประเทศไทยเราก็จะเป็นบริเวณอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามันที่เราสามารถดำลงไปชื่นชมความงดงามของฝูงปลาต่างๆ เช่น ปลาการ์ตูน, ปลาสิงโต, ปลาทูน่า, ปลานกแก้ว, ปลาปักเป้า หากโชคดีก็อาจได้พบปลาที่เป็นขวัญใจของนักดำน้ำอย่างปลาวาฬ ซึ่งย่อมสร้างความตื่นเต้นและประทับใจจากการพบเห็นแบบตัวเป็นๆ มากกว่าดูจากภาพถ่ายหรือสารคดีแน่นอน สำหรับประเทศไทยปลาน่าสนใจที่สามารถพบได้มีดังนี้
ฉลามวาฬ (Whale Shark)
เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นตระกูลปลาฉลาม แต่ที่ถูกชื่อว่า ฉลามวาฬ เพราะขนาดตัวที่ใหญ่มาก ตัวโตเต็มที่อาจมีขนาดยาวถึง 24 เมตร และน้ำหนักประมาณ 42 ตัน เป็นเหมือนยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลเพราะไม่ทำร้ายคนหรือสัตว์อื่นๆ กินเพียงเหล่าแพลงก์ตอนเป็นอาหาร เคลื่อนที่ช้าต่างจากปลาฉลามทั่วๆ ไป พบเจอค่อนข้างยาก จึงเป็นปลาที่นักดำน้ำอยากเจอและคอยลุ้นตามหาอยู่ตลอด ฉลามวาฬจะเดินทางว่ายไปทั่ว ไม่ได้เป็นหลักแหล่งไม่ว่าจะเป็นในทะเลลึก หรือตอนขึ้นมากินแพลงก์ตอนบนผิวน้ำ เราจึงมีโอกาศที่จะเจอได้ทั้งขณะที่ดำน้ำลึกหรือตอนอยู่บนผิวน้ำ สามารถพบได้ทั้งในฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ปัจจุบันฉลามวาฬได้รับการประเมินสถานภาพเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อีกด้วย
กระเบนราหู (Manta Ray)
เป็นปลากระเบนที่สายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ใจดีประจำท้องทะเล โดยจะมีน้ำหนักตัวได้ถึง 16 ตัน กินแพลงก์ตอนเป็นอาหารเช่นเดียวกับฉลามวาฬ ในประเทศไทยสามารถพบเจอได้ทางฝั่งทะเลอันดามัน เป็นอีกหนึ่งในปลาที่นักดำน้ำอยากเจอมากที่สุด ด้วยลักษณะแผ่นหลังและครีบสีดำ ท้องสีขาว และปีกที่กว้างใหญ่ ทำให้ตอนว่ายน้ำมีลีลาที่พริ้วไหว สวยงาม เป็นอีกหนึ่งปลาที่หายากและปริมาณลดน้อยลงเรื่อยๆ และได้ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
![กระเบนราหู (Manta Ray)](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/03/กระเบนราหูManta-Ray.jpg)
ทากเปลือย/ทากทะเล (Nudibranch)
หรือที่นักดำน้ำเรียกกันสั้นๆ ว่านูดี้ เป็นสัตว์ทะเลตัวจิ๋วอยู่ในจำพวกมอลลัสกาเช่นเดียวกับหอยและหมึก ไม่มีเปลือกห่อหุ้มตามลำตัว มักอาศัยตามแนวปะการัง ทราย เป็นหนึ่งในสัตว์ที่เป็นขวัญใจของนักดำน้ำโดยเฉพาะช่างภาพ เพราะมันมักจะอยู่นิ่งๆ หรือเคลื่อนไหวช้าๆ และด้วยหน้าตาที่น่ารักแปลกตา สีสันสวยงาม ตัวเล็กจิ๋ว ทำให้แต่ละรูปที่ออกมาน่ารักน่าเอ็นดูมาก หากใครเคยเห็นแค่ในรูปอาจจะคิดว่ามันตัวไม่เล็กมาก แต่ไปในทะเลจริงๆ จะไปหานูดี้เราถึงกับต้องเพ่งกันเลยทีเดียว บางตัวมีขนาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น
![ทากเปลือย](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/03/ทากเปลือย.jpg)
![ทากทะเล](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/03/ทากทะเล.jpg)
ปลาสับปะรด (pineapple fish)
เป็นปลาที่มีลวดลายสีสันราวกับสับปะรด ตัวเล็กสีเหลือง ขอบเกร็ดสีดำ ผิวแข็งเป็นหนามๆ มีความพิเศษตรงที่มีแบคทีเรียเรืองแสงอยู่บริเวณด้านล่างของขากรรไกร ซึ่งเป็นปลาที่ค่อนข้างหาดูได้ยากมาก ในไทยพบเพียงไม่กี่ตัว ถ้าใครอยากเจอต้องไปลุ้นตามหากันที่กองหินริเชริว มักจะหลบตามโพรงหินต่างๆ
ฉลามหัวบาตร (bull shark)
เป็นฉลามที่พิเศษคือสามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืด หรือในน้ำทะเลตื้นได้ รูปร่างอ้วนป้อม ฟันแหลมคม หรือก็คือหน้าตาฉลามที่เราคุ้นตาที่เห็นประจำในโปสเตอร์ หรือในหนัง สามารถพบฉลามหัวบาตรได้ทั้งในฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ถึงจะมีนิสัยดุกว่าฉลามพันธุ์อื่นๆ แต่ฉลามก็ไม่ได้กินคนเป็นอาหารแบบที่ผู้คนชอบเข้าใจผิด แต่เมื่อลงไปเจอก็ทำให้เราตื่นเต้นได้ไม่ใช่น้อย
ปลากระโทง
เป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีความปราดเปรียวว่องไว จัดเป็นปลาที่สามารถว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลก และยังสามารถกระโดดพ้นน้ำได้สูง จึงนิยมตกกันเป็นเกมกีฬา มีความสง่างามมากจึงได้รับฉายาจากนักตกปลาว่าเป็น”ราชินีแห่งท้องทะเล” มักจะหากินตั้งแต่iระดับความลึกกลางน้ำไปจนถึงผิวน้ำ อยู่ในแนวของกระแสน้ำทะเลเปิด จุดเด่นคือมีปากด้านบนเป็นกระดูกยื่นยาวแหลมออกมา ใช้เพื่อการนำทาง ล่าเหยื่อ และป้องกันตัว และครีบหลังที่เป็นกระโดงสูงแหลมคล้ายเรือใบ สีและลายข้างลำตัวจะแตกต่างออกไปตามแต่ละชนิดสายพันธุ์ และเปลี่ยนตามอารมณ์
![ปลากระโทง](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/03/ปลากะโทง.jpg)
นอกจากนี้ก็ยังมีแนวปะการัง, กัลปังหาหาและดอกไม้ทะเลนานาชนิด รวมถึงวิถีชีวิต พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตอย่าง เต่า, ปู, กุ้ง, ม้าน้ำ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดอื่นๆ ใต้ท้องทะเลอีกมากมาย ที่เราไม่มีทางได้พบเห็นหากอยู่บนผิวน้ำหรือชายฝั่ง
อย่างไรก็ตาม การดำน้ำยังสร้างความสงบ ผ่อนคลาย ช่วยให้หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก เพราะเมื่อลงไปใต้ทะเลเราจะไม่ได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอก จึงต้องกลับมาโฟกัสอยู่ที่ตนเองอย่างเดียว ทำให้ได้คุยกับตัวเอง ถือเป็นการเติมพลังบวกให้กับจิตใจได้เป็นอย่างดี ถ้าหากได้ลองมาเปิดประสบการณ์โลกใต้ทะเลสักครั้งในชีวิต จะต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน เหมือนดังคำพูดของ ฌาคส์ กุสโต (Jacques Cousteau) ที่ได้กล่าวไว้ว่า “The sea,once it casts its spell, hold one in its nets of wonder forever.” ซึ่งความหมายคือ หากคุณได้ดำน้ำลงไปสำรวจใต้ทะเลสักครั้งหนึ่งแล้ว คุณจะต้องหลงเสน่ห์และแปลกใจ จนอยากจะสำรวจและเรียนรู้โลกใต้ทะเลให้มากขึ้นอีก
![ดำน้ำดูปะการัง](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/02/ปะการังใต้ทะเล.jpg)
ประโยชน์ของการดำน้ำ
กิจกรรมดำน้ำจัดว่าเป็นกีฬาประเภทหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้
1. ช่วยให้พัฒนาร่างกาย
สำหรับผู้ที่ดำน้ำเป็นงานอดิเรกหรือดำเป็นกิจวัตรประจำวันก็ตาม จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการออกกำลังกาย ทั้งเรื่องอาหารและการพักผ่อนในชีวิตประจำวัน ตลอดจนทักษะที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างถูกวิธี เนื่องจากการดำน้ำลงไปใต้ทะเลที่มีความดันเพิ่มขึ้น ร่างกายจะมีภาระมากขึ้น ต้องใช้แรงกายมากกว่าการอยู่บนบก การหายใจที่แตกต่างกัน ซึ่งหากไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว และทักษะไม่ดีพออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
2. ช่วยพัฒนาด้านจิตใจ
การดำน้ำยังส่งเสริมการพัฒนาด้านจิตใจที่มีต่อโลกสิ่งแวดล้อม เมื่อลงมาเห็นสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลจะพบว่าความสวยงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้นมีเสน่ห์ที่ยากจะเลียนแบบ ช่วยให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมมากขึ้นว่ามีประโยชน์ต่อโลกอย่างไร เพื่อที่จะช่วยรักษาไว้อย่างยั่งยืน
3. ช่วยพัฒนาสมาธิ
การดำน้ำต้องมีสมาธิอยู่เสมอ เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ดำรงชีวิตอยู่ใต้ทะเล ทำให้ต้องโฟกัสทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนต่างๆ ในการดำ การเคลื่อนไหวในน้ำ การสื่อสารระหว่างกัน ฯลฯ ตลอดจนต้องสังเกตสภาพรอบตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดำด้วยกัน หรือสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตอื่นๆ ที่อาจทำอันตรายต่อตนเองได้
4. ช่วยให้ได้สังคมหรือมิตรภาพใหม่
การมาดำน้ำช่วยให้คุณรู้จักเพื่อนหรือมิตรภาพใหม่ๆ ที่มาใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะการลงไปดำแต่ละครั้งจะต้องไปกันอย่างน้อย 2 คน ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัย ทำให้ได้สังคมจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบหรือมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน
![ดำน้ำดูปลากระเบน](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2022/02/ปลากระเบนใต้ทะเล.jpg)
สถานที่ดำน้ำในประเทศไทย
ประเทศไทยมีทะเลสวยๆ หลายแห่งทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน โดยแต่ละที่ก็จะมีความสวยงามและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เราจะขอยกมา 5 สถานที่ดำน้ำลึกที่มีความสวยงาม ยอดฮิต ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
1. กองหินริเชริว (Richelieu Rock)
เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา มีลักษณะเป็นกองหินขนาดใหญ่และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และปลานานาชนิด มีโอกาสได้พบสัตว์ใหญ่เช่น ฉลามวาฬ จัดได้ว่ามีความหลากหลายและครบในจุดเดียว ความลึกอยู่ที่ประมาณ 6-32 เมตร
2. หมู่เกาะสิมิลัน
เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยงามติดอันดับโลก อยู่ทางทะเลฝั่งอันดามันเหนือ ในเขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน มีจุดดำน้ำมากกว่า 10 จุดกระจายกันไป ทำให้ดึงดูดนักดำน้ำทั้งในไทยและต่างชาติ สามารถดำน้ำได้ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ มีทั้งกองหินทับซ้อนใต้น้ำ จุดที่เป็นแนวปะการังชายฝั่ง เต็มไปด้วยสีสันแห่งท้องทะเลของปะการังและสัตว์น้ำที่หาดูได้ยาก
3. หินม่วง หินแดง
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำ 2 กองอยู่กลางทะเล โดยหินแดงโผล่ปริ่มน้ำ ส่วนหินม่วงจะจมใต้น้ำ มีสัตว์เล็กๆ ชนิดแปลกๆ อาศัยตามกองหินมากมาย มีปะการังอ่อนหลากสี จัดเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามและมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
4. เกาะบอน
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน จังหวัดพังงา เป็นเกาะทางตอนเหนือของฝั่งอันดามัน โดยรอบของตัวเกาะเป็นผาหินสูงชัน สัญลักษณ์ของเกาะบอนคือช่องทะลุ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ทำให้คนมักจะเรียกชื่อเกาะบอนอีกชื่อว่า “เกาะทะลุ” ที่นี่มีแนวปะการังน้ำลึกที่สมบูรณ์และสวยงาม เป็นจุดที่มีกระเบนราหู สัตว์น้ำหายากให้ชมอีกด้วย
5. เกาะตาชัย
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีจุดดำน้ำที่หลากหลาย สีน้ำสีฟ้าครามใส เป็นจุดดำน้ำที่ค่อนข้างลึก และกระแสน้ำพัดผ่านค่อนข้างแรงจึงเป็นจุดที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของสัตว์และพืชน้ำ สามารถพบเจอปลาขนาดใหญ่ได้บ่อยครั้ง
![ดำน้ำดูโลกใต้ทะเล](https://amitydivingclub.com/wp-content/uploads/2021/11/ดำน้ำดูปะการัง-1.jpg)
คนว่ายน้ำไม่เป็นสามารถดำน้ำดูปะการังได้ไหม ?
คนว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถดำน้ำใต้ทะเลดูปะการังได้อย่างปลอดภัย เพราะการดำน้ำจะไม่เหมือนกับการว่ายน้ำ การดำน้ำเราต้องจมลงไปใต้ทะเล แต่เรายังสามารถหายใจได้ตลอดเวลา ในการเรียนดำน้ำจะมีการสอนพื้นฐานเรื่องการลอยตัว วิธีการเอาตัวรอดเมื่อก่อนเหตุการณ์ฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย เช่น น้ำเข้าหน้ากาก, ทำอย่างไรเมื่อ regulator ที่ใช้หายใจหลุดใต้น้ำ, วิธีการช่วยเหลือ Buddy ฯลฯ ดังนั้นคนว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถดำน้ำได้อย่างปลอดภัยค่ะ เพียงเรียนรู้และฝึกฝนอย่างถูกวิธี จนเมื่อดำน้ำเป็นแล้วก็ต้องเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติด้วยการทิ้งขยะลงทะเล หรือไปนั่งทับ สัมผัสแนวปะการังในระหว่างดำน้ำ ตลอดจนไปหยิบจับนำสิ่งใดๆ ใต้ทะเลขึ้นมาด้วย
หากใครมีโอกาสหรือยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ว่าจะมาลองดำน้ำดีไหม ทาง Amity เรารับรองว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงหาเวลาในวันหยุดมาทดลองเรียนเบื้องต้นก่อน หากชื่นชอบหรือสนุกค่อยเรียนไปตามระดับในขั้นต่อไป ส่วนอุปกรณ์จะมีให้ยืมใช้งานอยู่แล้ว เมื่อมีประสบการณ์และทักษะมากขึ้น ค่อยไปซื้อส่วนตัวภายหลังได้ รับรองได้เลยว่าต้องเป็นกิจกรรมที่คุณจะไม่ผิดหวังและได้รับประสบการณ์สุดพิเศษที่คุ้มเกินกว่าค่าเรียนกลับไปแน่นอน